ถ้าเราสามารถทำราคาพวกนี้ได้ มันจะเป็นคุณสมบัติ ที่ดีเวลาเปลี่ยนงาน
หรือพัฒนาตัวเองไปอีกระดับซึ่งในปัจจุบัน งานเหล็กนั้น มีหลากหลายรูปแบบ
ซึ่ง แต่ละแบบค่าจ้างก็จะแตกต่างกันออกไป วันนี้จะไม่พูดถึงงาน เหล็ก ประเภทแม่พิมพ์
ซึ่งจะต้องใช้เครื่องกลึงในการผลิต แต่จะกล่าวถึงงานประกอบโครงสร้างเหล็ก
ซึ่งงานประกอบ นี้จะมีตั้งแต่ชิ้นงานเล็กๆอย่าง ราวกันตก ไปถึงงานชิ้นใหญ่ๆ อย่าง การประกอบโรงงาน เป็นต้น
การคิดราคางานโครงสร้างเหล็ก จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท
คือ รับเฉพาะค่าแรงอย่างเดียว กับ รับแบบรวมค่าวัสดุด้วย
ซึ่งอย่างหลังนั้นหาก คำนวณราคาผิดพลาด หรือ ไม่ติดตามราคาตลาดของเหล็ก ก็มีโอกาสขาดทุนสูงทีเดียว
ทีนี้เรามาดูเรื่องพื้นฐาน
เรื่อง วัสดุเหล็ก
เรื่องราคาเหล็ก จำไว้เลยว่า เค้าควบคุมราคาให้คุณได้ ประมาณ 1-2 สัปดาห์เท่านั้น
หากเกินกว่านั้นคุณจำเป็นต้องขอราคาเค้าใหม่ ถ้าเป็นไปได้ งานหนึ่งโครงการ
คุณควรคำนวณและสั่งซื้อเหล็กรอบเดียวเท่านั้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงเรื่องราคาที่เปลี่ยนแปลง
ซึ่งตอนนี้ราคาจะอยู่ประมาณกิโลกรัมละ 30 บาท
เรื่อง ค่าจ้างในการทำโครงสร้างเหล็ก
การรับเหมาโครงสร้างเหล็ก นิยมคิดราคาเป็นกิโลกรัมตามน้ำหนักของเหล็ก
แต่ขึ้นอยู่กับประเภทของเหล็กด้วย ยกตัวอย่าง เหล็กกลม จะมีน้ำหนักเบา ราคาในการผลิตก็จะสูงขึ้น
แต่ถ้าก่อสร้างโรงงาน เหล็กประเภทนี้จะถูนำไปคิดราคาเฉลี่ย กับ พวก เหล็ก WF ซึ่งมีน้ำหนักมาก
ตอนนี้ในระดับผู้รับเหมา ถ้าได้ ค่าแรงกิโลกรัมละประมาณ 10 บาทก็โอเคแล้วนะครับ
เรื่อง ค่าแรงช่างในการผลิตชิ้นงาน
งานโครงสร้างหลักๆมี 2 อย่างคือ เชื่อม และทาสี ดังนั้นช่างที่ทำการผลิต
เราคัดไว้เลยว่าต้องเชื่อมได้ ทาสีได้
ซึ่ง ค่าแรงช่างพวกนี้จะสูง ดังนั้น เราควร วางแผนการผลิตให้ดี เพื่อลดเวลา และต้นทุนเรื่องค่าแรง
ส่วนเรื่องต่อไปผมจะไปเปิดประเด็นต่อในตอนที่ 2 สงสัยส่วนไหน
หรือ ต้องการข้อมูลที่อยากทราบก็แนะนำกันเข้ามานะครับ
