รวบรวมบทความน่าสนใจ

ความรู้เพิ่มเติม เกร็ดความรู้ทั่วไปในการสายงาน อุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น งานเขียนแบบ ออกแบบ คำนวณ

สัญลักษณ์งาน แต่ละงาน เช่น งานเชื่อม งานไฟฟ้า งานท่อ


- งานทาสีเหล็ก และการ ประมาณราคา




- การคิดราคา งานโครงสร้างเหล็ก ตอนที่ 1




- การคิดราคา งานโครงสร้างเหล็ก ตอนที่ 2




- พื้นฐานช่างเขียนแบบ : ขนาดกระดาษ




-ความรู้พื้นฐาน ของระบบการทำความเย็น




- วิธีการแปลงหน่วย พร้อมของแถมท้ายเล่ม




- ประเภทเหล็กในงานเคลื่องกล




- ความรู้ + แจก ตารางไอน้ำ




- การคํานวณน้ำหนักเหล็ก




- ศัพท์ งานก่อสร้าง งานโครงสร้าง ที่ควรรู้




- ชนิด ของปั้ม




- ตัวอย่าง การทำงานของ ปั้ม Centrifugal




- อิเล็กโทรดวัดระดับน้ำ Electrode Water Level





- ความรู้ทั่วไป : Sandblast คือ อะไร ?




- ความรู้ทั่วไป : การใช้งาน ปั้มไดอะแฟรม (Diaphragm Pump)




- การเลือกใช้งาน Duct ตามความเร็วลม และ Field Duct Sizing Chart




- ความรู้พื้นฐาน : Skimmer คืออะไร

ตารางไอน้ำ

ตารางไอน้ำ คือ ตารางที่บ่งบอกสถานะของ พลังงานไอน้ำ

ซึ่งถูกนำไปใช้งานได้หลายรูปแบบ

ทั้งเครื่องจักรไอน้ำ เครื่องอัดอากาศ

ส่วนในรูปนี้เป็น Stream Turbine

ตารางไอน้ำ ที่ผมเอามาแจกนี้

คงจะคุ้นเคยกันในรูปแบบ ที่เป็น ตาราง A-1 ถึง A-5

เป็น ตารางไอน้ำ ในสถานะต่างๆ ไว้คำนวณค่าความเปลี่ยนแปลงพลังงาน

หรือหาค่าของความดันของ ของเหลวที่อุณหภูมิใดๆ

ซึ่งใช้ในหลายๆวิชาอย่าง Thermodynamic หรือ Power plant นั่นเอง

ค่าที่บ่งบอกจะมี

อุณหภูมิ – Temperature

ความดัน – Pressure

ปริมาตรจำเพาะ – Specific Volume

พลังงานภายใน – Internal Energy

เอนทาลปี – Enthalpy

เอนโทรปี – Entropy

ออกตัวไว้ก่อนนะครับว่าผมไม่ได้ สแกน มา แต่เห็นมีหลายท่านอยากได้

ผมแลยค้นหาเอาจากในเนท มาเพื่อแบ่งปันความรู้ให้กับทุกคนแค่นั้นเองครับ

Download ได้ที่นี่ครับ

พื้นฐานช่างเขียนแบบ : ขนาดกระดาษ

ถ้ามีใครถามเราว่า กระดาษ A0 มีพื้นที่เท่าไร หลายคนคงตอบได้ทันทีว่า 1 ตารางเมตร แต่รู้ไหมครับว่า กระดาษ A0 ไม่ได้กว้าง 1 เมตร x 1 เมตร

แต่มีขนาด 841 x 1189 มิลลิเมตร ซึ่งผมลองคูณดูแล้ว มันไม่ได้ 1 ตารางเมตรหรอก

ผมได้ 0.99949 ตารางเมตรตะหาก เหอะๆ แต่ช่างมันเถอะ

ที่ผมอยากให้รู้ไว้ เพราะมันคือพื้นฐานของ ช่างเขียนแบบ ทีควรจะรู้ ว่ามันมีขนาดเท่าไร

แล้วเค้ากำหนดกระดาษยังไงว่าอันไหนเป็น A4 อันไหนเป็น A3 ทีนี้เรามาดูกัน

นี่คือวิธีแบ่งกระดาษ ซึ่งขนาดใหญ่ที่สุดคือ A0 อย่างที่บอกมันมีขนาด 841 x 1189 มิลลิเมตร

และแบ่งครึ่งก็จะเป็น A1 แบ่งอีกก็จะเป็น A2 นั่นเอง

ถ้าเราเป็นช่างเขียนแบบ ขนาดกระดาษก็ควรจำให้แม่น ประมาณว่าถามปุ๊บตอบปั๊บ ประมาณนี้

ไม่ได้บอกว่าให้จำทั้งหมดนะครับ เอาแค่ขนาดที่เราใช้บ่อยๆก็พอ อย่าง A2, A3, A4 ก็พอ

ขนาดกระดาษ A0 = 841 x 1189

ขนาดกระดาษ A1 = 594 x 841

ขนาดกระดาษ A2 = 420 x 564

ขนาดกระดาษ A3 = 297 x 420

ขนาดกระดาษ A4 = 210 x 297

ขนาดกระดาษ A5 = 148 x 210

ขนาดกระดาษ A6 = 105 x 148

ขนาดกระดาษ A7 = 74 x 105

ขนาดกระดาษ A8 = 74 x 105

ขนาดกระดาษ A9 = 74 x 105

ขนาดกระดาษ A10 = 74 x 105 

สัญลักษณ์งานเชื่อม

สำหรับวันนี้เรามาเรียนรู้เรื่อง สัญลักษณ์งานเชื่อมกันนะครับ

ซึ่งส่วนใหญ่เราจะเห็นสัญลักษณ์งานเชื่อมได้ใน แบบงาน สำหรับสั่งงานการผลิต

เพราะบางที ต้องเข้าใจนะครับว่า คนที่ทำงานเค้าจะทำงานตามแบบที่กำหนด

ช่างเขียนแบบหรือออกแบบจึงจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ สัญลักษณ์พวกนี้ไว้คอยสั่งงาน ช่างว่า

เราต้องการให้เค้าเชื่อมอย่างไร แนวเชื่อมยาวเท่าไร เว้นเท่าไร ใหญ่แค่ไหน

หรือต้องการให้เชื่อมทันทีหรือเชื่อมหน้างาน เป็นต้น

เรามาดูตัวอย่างกันดีกว่า









1. เราจะเห็นเลข 5 นั่นหมายถึงว่า ขนาดของรอยเชื่อมนั้นใหญ่ 5 มิลลิเมตร

2. ส่วนรูปข้างหลังเลข 5 คือ ลักษณะการเชื่อมที่เรียกว่า สัญลักษณ์งานเชื่อมนั่นเอง ส่วนรายละเอียดแต่ละสัญลักษณ์ โหลดเอาด้านล่างนะครับ

3. ส่วน 4x20 (10) หมายความว่า เชื่อม 4 แนว แนวละ 20 มิลลิเมตร เว้น 10 มิลลิเมตรนั่นเอง








แต่ถ้าด้านหลัง เป็นแบบรูปนี้หมายความว่า แนวเชื่อมยาว 50 มิลลิเมตรนะครับ


ส่วนรูปแบบเพิ่มเติมอื่นๆ มาดูกันครับ มีนิดเดียว

จากรูปนะครับ สัญลักษณ์นี้ ภาษาช่างจะเรียกว่า ปักธง หมายความว่า ค่อยเอาไปเชื่อมหน้างาน ป้องกันการชำรุดหรือ กันชิ้นงานขัดกัน ตอนประกอบนั่นเอง






ส่วนอันนี้ คือสัญลักษณ์ให้เชื่อมรอบชิ้นงาน จะเห็นบ่อยตอนติดตั้ง เพลทบริเวณหัวเสา นะครับ




ส่วนอันนี้คือ รายละเอียดของสัญลักษณ์งานเชื่อม ที่โรงเรียนบางสะพานเค้าทำไว้

Download ได้ที่นี่ครับ

เอาไปศึกษาดูนะครับ

ความรู้พื้นฐาน ของระบบการทำความเย็น

ไม่รู้เป็นยังไงมันร้อนขึ้น ทุกวันๆ เฮ้อ พอนึงถึงเรื่องนี้ ก็นึกถึงเครื่องทำความเย็นพอดีเลย

หลายๆ คน คงรู้จักเครื่องทำความเย็น อย่าง แอร์ หรือตู้เย็น นะครับ

การเขียนแบบ ระบบทำความเย็นจำเป็นต้องมีความรู้ติดตัว สำหรับอุปกรณ์

และหลักการทำงานของเครื่องทำความเย็น

วัฏจักรของระบบการทำความเย็นมีองค์ประกอบหลักอยู่ 4 ขั้นตอน

ซึ่งการทำงานนั้นจะต่อเนื่องกัน เรามาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง


1. Compressor ทำหน้าที่ดูดสารทำความเย็นในสภาพที่เป็นไอ ซึ่งสารทำความเย็นจะดูดความร้อนในขณะที่ระเหยในอีวาพอเรเตอร์









2. Condenser ทำหน้าที่ลดปริมาณไอของสารทำความเย็นลงแล้วทำให้สารทำความเย็นเปลี่ยนสถานะกลายเป็นของเหลว นั่นคือการถ่ายโอนความร้อนออกจากระบบ









3. Expansion Valve เป็นอุปกรณ์ลดความดัน โดยจะทำหน้าที่ควบคุมสารทำความเย็นให้ไหลผ่านไปในอัตราที่พอเหมาะ สารทำความเย็นจะกลายเป็นแก๊สในอีวาพอเรเตอร์









4. Evaporator หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่าเครื่องทำระเหย เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่รับและแลกเปลี่ยนความร้อน ระหว่างสารทำความเย็นกับภาระความร้อนในระบบ











พอรวมกันแล้ว ระบบก็จะทำงานตามภาพนี้แหละครับ



















หลังจากได้เห็นหน้าตาของมันแล้วคงจะเข้าใจหลักการ การทำงานของ อุปกรณ์แต่ละตัวแล้วนะครับ

ส่วนใครสนใจที่จะศึกษาเพิ่มเติม ก็อ่าน E-Book ที่ผมนำมาฝากได้นะครับ

>>> Download E - Book ได้ที่นี่ <<<

การเขียนแบบ เพื่อบรรจุชิ้นงาน ส่งออก

เนื่องจากใน หลายๆบริษัทในประเทศไทย มีการทำ สินค้าส่งออก หรือ สร้างสินค้า แบบ Knockdown เพื่อ

ประกอบสินค้าที่หน้างาน จึงจำเป็นต้องบรรจุสินค้า ใส่ตู้ Container ซึ่ง การจัดวางชิ้นงานจำเป็นต้องมีการ

ออกแบบ เพื่อไม่ให้สินค้า ชำรุดเสียหาย และ สามารถบรรจุสินค้าได้มากที่สุด



วันนี้ผมจึงอยากจะแนะนำการออกแบบชิ้นงานเพื่อบรรจุลงใน ตู้คอนเทนเนอร์

สิ่งที่ควรรู้คือตู้คอนเทนเนอร์ ที่นิยมใช้ทั่วไปจะมี 2 ขนาดคือ

ตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 20’ ภายในกว้าง 2.3 สูง 2.3 ยาว 5.8 เมตร โดยประมาณ
ตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 40’ ภายในกว้าง 2.3 สูง 2.3 ยาว 12 เมตร โดยประมาณ

เมื่อทราบขนาดตู้จึงจะสามารถออกแบบ บรรจุภัณฑ์ (Casing) ได้

การเลือกชิ้นงานก็เหมือนกับการ ทำ Cutting plan นั่นแหละครับ คิดไว้ว่าทำอย่างไรจะบรรจุได้มากที่สุด

เพราะตู้ หนึ่งมันก็แพง และยิ่งใช้จำนวนหลายตู้ น้ำหนักตู้ก็จะทำให้ส่งสินค้าในราคาที่แพงขึ้นด้วย

ข้อแนะนำอย่างหนึ่ง ที่แตกต่างจากการทำ Cutting plan คือควรเขียนแบบให้เป็น สามมิติ

เพราะ การเขียนแบบ ใส่บรรจุภัณฑ์ นั้นจำเป็นต้องคำนวณสามด้านจึงเกิดความผิดพลาดได้ง่าย

การออกแบบจำเป็นต้องคำนวณมาก่อนว่า อย่างต่ำต้องใช้กี่ตู้ และจึงนำมาเฉลี่ยแบ่งชิ้นงานนั้นลงตู้คอนเทนเนอร์

ศัทพ์ และความหมาย อุปกรณ์ท่อ

ความหมายของท่อแต่ละชนิด ซึ่งบางชนิดก็ใช้คำเรียกทับศัพท์

แต่ถ้ารู้ความหมายของท่อแต่ละชนิดก็จะง่านต่อการทำความเข้าใจ





Coupling = ข้อต่อตรง






Union = ข้อต่อตรง (ใช้ในจุดที่ต้องการให้ถอดได้ แต่ข้อเสียคือรั่วง่าย)






Nipple = ข้อต่อตรงเกลียวนอก






Tee = ข้อต่อสามทาง






Tee Reducing = ข้อต่อสามทางลด






Reducing = ข้อลดแบบกลม






Plug = ฝาเกลียว






Cap = ฝาปิด






Flange = หน้าแปลน






Elbow 90 = ข้องอ 90 องศา






Elbow 45 = ข้องอ 45 องศา






Street Elbow 90 = ข้องอ ผ.ม. 90 องศา






Cross = สี่ทาง







Bushing = ข้อลดแบบเหลี่ยม

พื้นฐานการใช้งาน โปรแกรม Auto CAD

โปรแกรม Auto Cad นั้น เป็นโปรแกรม พื้นฐาน สำหรับช่างเขียนแบบทุกคน

ซึ่งการใช้งานนั้นไม่ยากมาก และ ช่างส่วนใหญ่ สามารถที่จะใช้งานได้

ไม่ว่าในระดับเปิดดู ปรับแต่งได้เล็กน้อย หรือ สามารถเขียนแบบได้

ผมจึงเขียนอยากเขียนบทความขึ้นมาเพื่อเผยแพร่การใช้งานโปรแกรม Auto Cad

ตั้งแต่พื้นฐานสำหรับผู้ที่สนใจในการเขียนแบบทุกท่านครับผม



Stage 1 คำแนะนำ มือใหม่ อยากเขียน Auto Cad ได้ ต้องรู้อะไรบ้าง




หน้าต่าง โปรแกรม Auto Cad




ชุดคำสั่ง Draw และ Modify ในการเขียนแบบ CAD




การ ใช้งาน Object Snap




วิธีการแก้ไข คำสั่ง Hot Key หรือ คีย์ลัด CAD




การเขียนภาพ Isometric โดยใช้ Auto CAD




การใช้งาน Layer และการเรียก เส้น ต่างๆมาใช้งาน




Auto CAD : การใช้งานคำสั่ง Revision Cloud (ก้อนเมฆ)




การตั้งค่า Print program CAD




แจก Font ไทย CAD




การตั้ง ค่า เส้นบอกขนาด และกำหนดขนาดหัวลูกศร




Auto lisp เครื่องมือชั้นสูงผู้ช่วยในการเขียน Auto CAD ตอนที่ 1




Auto lisp เครื่องมือชั้นสูงผู้ช่วยในการเขียน Auto CAD ตอนที่ 2